‘จะนะ’มีแล้วโรงไฟฟ้า...เพื่อชาติ หัวหมู่ทะลวงฟัน...‘สงขลาไบโอแมส’ | เดลินิวส์

„‘จะนะ’มีแล้วโรงไฟฟ้า...เพื่อชาติ หัวหมู่ทะลวงฟัน...‘สงขลาไบโอแมส’ มีพืชหลายชนิดที่ใช้ผลิตไฟฟ้าชีวมวลได้ ในยุโรปมี 7 ชนิด ของเราเช่น ยูคาฯ อ้อย มัน และ หญ้าเนเปียร์ ที่ตอนนี้ยังล้มลุกคลุกคลาน เพราะนโยบายไม่แน่นอน วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 เวลา 6:00 น. เพื่อสนองนโยบายของรัฐที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนของประเทศจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 20 ในปี 2565 รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ 4 อำเภอในสงขลา คือ อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ด้วยการให้สิทธิพิเศษแก่เอกชน อุดหนุนการขายไฟฟ้าให้รัฐ (Feed In Tariff หรือ FIT ) เพื่อเป็นแรงจูงใจลงทุน บริษัท พรีไซซ เพาเวอร์โปรดิวเซอร์ จำกัด จึงได้จับมือกับ บริษัทราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด มหาชน บริษัทลูกของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ สหกรณ์ออมทรัพย์ อัศศิดดีก ก่อตั้ง บริษัทสงขลาไบโอแมส จำกัด ทำโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กมาก (Very Small Power Producer... VSPP) ที่ ต.ขุนตัดหวาย อ.จะนะ จ.สงขลา โดย บ.พรีไซซ เพาเวอร์ ถือหุ้น 40% ราชบุรีโฮลดิ้ง 40% และ สหกรณ์ออมทรัพย์อัศศิดดีก ถือหุ้น 20% เพื่อผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ ขายการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทั้งนี้ใช้วัตถุดิบสำคัญ คือ เศษไม้ยางพารา โดยโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งนี้ถือเป็นแห่งแรกใน จะนะ สงขลา แต่เป็นแห่งที่ 3 ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ (มี 2 โรงที่ ยะลา) ทำไมเป็นที่ จะนะ ทั้งที่มีข่าวการก่อความไม่สงบบ่อยครั้ง และทำไมใช้ยางพารา เรื่องนี้มีคำตอบ กิตติ สัมฤทธิ์ ประธาน บ.พรีไซซฯ และ กก.พรีไซซ เพาเวอร์โปรดิวเซอร์ พูดถึงที่มาที่ไปว่า มีพืชหลายชนิดที่ใช้ผลิตไฟฟ้าชีวมวลได้ ในยุโรปมี 7 ชนิด ของเราเช่น ยูคาฯ อ้อย มัน และ หญ้าเนเปียร์ ที่ตอนนี้ยังล้มลุกคลุกคลาน เพราะนโยบายไม่แน่นอน แต่ปัญหาคือ คนกลาง กินรวบหมดในขั้นตอนซื้อขาย แปรรูป และการตลาด “มีการไปกดราคารับซื้อจากเกษตรกร ที่เราใช้เศษไม้ยางเป็นเชื้อเพลิง เพราะยางกับภาคใต้เป็นของคู่กัน พูดง่าย ๆเป็นวัตถุดิบในพื้นที่ เหนืออื่นใด อ.จะนะ แม้ข่าวจะดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วมีความสงบ การคมนาคมก็สะดวกนะครับ” โรงไฟฟ้าสงขลาไบโอแมสนี้ ตั้งอยู่ริมทางหลวง 3156 เนื้อที่กว่า 90 ไร่ เงินลงทุนราว 810 ล้านบาท “น่าจะจ่ายไฟเข้าระบบได้ประมาณกลางเดือนนี้ครับ” เป็นความคืบหน้าล่าสุด อีกเหตุผล “ผมคนใต้และอยู่ในแวดวงการทำธุรกิจผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า ติดตั้งระบบไฟฟ้าอยู่แล้ว การทำโรงไฟฟ้าชีวมวลก็เป็นการต่อยอดธุรกิจ แต่ที่สำคัญคือได้ช่วยประเทศชาตินะครับ” กิตติร่ายเป็นข้อ ๆ 1. ราคายางที่รับซื้อเป็นราคาประกัน เกษตรกรจะมีรายได้คงที่ ปัจจุบันเราซื้อที่ 800-1,000 บาท ต่อตัน 2. เป็นการสร้างธุรกิจร่วมกับคนในชุมชนผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ อัศศิดดีก 3. สร้างงานให้คนในท้องถิ่น ไม่ต้องจากบ้านจากครอบครัวไปที่อื่น 4. ลดปัญหาการว่างงาน คนเรามีงานทำ ก็ไม่คิดเรื่องอื่น นอกจากโรงไฟฟ้า ยังมีงานต่อเนื่อง เช่น การแปรรูปน้ำยาง ไม้ยางพารา ที่จะทำต่อไป และ 5. ได้ FIT จากรัฐเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งนับเป็นแรงจูงใจสำคัญ “ต้องยอมรับครับ ถ้าเชิงธุรกิจไม่รอด การดำเนินการอื่น ๆ ก็รอดยากเช่นกันครับ เงินอุดหนุนที่ 5.50 บาทต่อหน่วย ถือว่า ไปได้เลย” ความเชื่อมั่นยังเกิดจาก หุ้นส่วน คือ สหกรณ์อัศศิดดีกเป็นมุสลิม ทีมงานก็เป็นมุสลิมไม่น้อย “ผมเชื่อว่า พวกเค้าจะร่วมกันปกป้องโรงไฟฟ้าของเค้า นี่คือความมั่นคงอีกอย่างหนึ่งนะครับ” กิตติย้ำ เงินลงทุน 810 ล้านบาท นอกจากเงินจากผู้ร่วมทุนแล้ว อีก 600 ล้านบาท กู้จาก ธนาคารอิสลาม แม้ดอกเบี้ยอาจสูงไปนิด แต่เพื่อความสบายใจและเชื่อมต่อความสัมพันธ์ ผู้ร่วมทุนก็ยินดี โดยขณะนี้ได้เงินลงทุนเรียบร้อยแล้ว มาดูเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการกำจัดกากของเสีย ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนตื่นตัวและให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าเรื่อง อื่น ๆ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของน้ำ เสียง และฝุ่น นั้น“